วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ

ภูชี้ฟ้า 

วนอุทยาน แห่งชาติภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ที่ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่อิงฝั่งขวาและป่าแม่งาว ฟ้าทอง มีพื้นที่ประมาณ 2,500 ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งจัดตั้งเป็นวนอุทยาน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 พื้นที่วนอุทยานเป็นยอดเขาสูงในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ภู ชี้ฟ้า ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงทางตะวันออกของจังหวัดเชียงราย อยู่ระหว่างรอยตะเข็บชายแดนไทย–ลาว ลักษณะเป็นหน้าผาสูงเป็นแนวยาวไปตามแนวชายแดน บริเวณปลายสุดของหน้าผามีลักษณะแหลมคล้ายกับนิ้วมือชี้ยื่นออกไปในอากาศ จึงเป็นที่มาของชื่อ "ภูชี้ฟ้า" จุดที่สูงสุดของภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200 ถึง 1,628 เมตร เบื้องล่างของหน้าผาเป็นแอ่งหุบเขา เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเชียงตอง แขวงไชยบุรี ประเทศลาว

                                                                                          แหล่งที่มา งานของตัว
                                                                                          ผู้สร้างสรรค์ Teeradondon


แหล่งที่มา
中文: 由上傳者拍攝。
         




 

  พระธาตุจอมจ้อ

      พระธาตุจอมจ้อเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิที่อยู่คู่เมืองเทิงมาตั้งแต่สมัยโบราณ กาล ประวัติพระธาตุจอมจ้อจากคัมภีร์เก่าแก่ที่ตั้งโดยนักปราชญ์ผู้ชำนาญในด้าน ภาษาบาลีของอำเภอเมืองเทิง (เมืองเถิง) ในสมัยนั้นได้กล่าวว่า ในกาลสมัยเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาสุวรรณภูมิ พระองค์ได้พักอยู่ใต้ต้นอโศกบนดอยใกล้แม่น้ำอิง มีพญานาคตนหนึ่ง รู้ว่าพระพุทธองค์เสด็จมาจึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทูลถามความต่างๆแล้วจึงนำจ้อคำ ๓ ผืนแล้วจ้อแก้วอีก ๓ ผืน มาถวายพระพุทธองค์ พระอานนท์จึงขอทูลพระธาตุให้พระยานาคตนนั้น พระพุทธองค์จึงนำพระหัตถ์ลูบพระเศียรได้พระเกศาธาตุเส้นหนึ่ง จึงโปรดให้พญานาคไว้พญานาคจึงนำความแจ้งให้เจ้าเมืองเทิงสร้างพระธาตุไว้ที่ กลางดอยเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุ      ต่อมาจึงมีการขนานนามพระธาตุนั้นว่า พระธาตุจอมจ้อ



แหล่งที่มา http://www.chiangraidirectory.com/ads/16621/


ความเชื่อ

     ""ความเชื่อ"" ในการไหว้พระธาตุจอมจ้อ คำว่า "จ้อ" เป็นคำล้านนา หมายความเทียบได้กับ "ช่อ" ในภาษาไทยกลาง "จอมจ้อ" จึงควรหมายความถึง ชูขึ้น หรือสูงเด่น เป็นสง่า สูงส่ง ถ้าได้กราบไหว้ก็จะประสบความสำเร็จทุกสิ่งเหมือนกับการเริ่มเจรจาก็นำมาซึ่ง ความสำเร็จและสมประสงค์ทุกประการ






  ม่อนผาต้าย


 

ชื่อแหล่งท่องเที่ยว :      ม่อนผาต้าย

ประเภทสถานที่ท่องเที่ยว :      ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ตั้ง :      ม.1 ต.แม่ลอย

ราย ละเอียด :      ม่อนผาต้าย เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณสถานที่เก่าแก่มีอายุหลายร้อยปี ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 จากการสำรวจของกรมศิลปากรหน่วยที่ 4 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2535 ได้พบว่าสถานที่แห่งนี้มีลักษณะที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองมาในอดีต ร่องรอยสถาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน จะเป็นแนวก้อนหินขนาดใหญ่ นำมาเรียงต่อกันเป็นกำแพงรอบ 4 ด้าน ในพื้นที่ประมาณ 2 งาน นับว่าเป็นโบราณสถานที่น่าศึกษาและเที่ยวชมอีกแห่งหนึ่งของตำบลแม่ลอย

การ เดินทาง :      เดินทางจากกรุงเทพมหานครถึงสี่แยกแม่กรณ์เลี้่ยวขวา มุ่งหน้าสู่อำเภอเทิงระยะทาง 45 กม. ถึงทางแยกไปอำเภอจุนเลี้ยวขวา 2 กม. ถึงทางแยกวัดแม่ลอยไร่เลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่อำเภอป่าแดด ผ่านที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลอยตรงมา 3 กม. จะเห็นวัดหนองข่วงให้เลี้ยวซ้ายผ่านหมู่บ้านลัดเลาะไปทางทุ่งนา 4 กม. จะมีป้ายบอกทางไปม่อนผาต้ายเลี้ยวขวาไปตามทาง 2 กม. ก็จะถึงโบราณสถานเก่าแก่ม่อนผาต้าย



          
 




 

น้ำตกแก่งขุนปล้อง

  

รูปภาพ www.thaitambon.com
 ตำบลปล้อง ประชาชนในตำบลเป็นคนจังหวัดแพร่ ลำปาง เชียงใหม่ ได้พากันมาตั้งบ้านเรือน และได้มีการสร้างพระธาตุจอมทองขึ้น เพื่อเป็นที่สักการะบูชาและเป็นที่รวมจิตใจของชาวตำบลปล้องในปี พ.ศ. 2517
สภาพทั่วไปของตำบล :
ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเทิง ไปทางทิศเหนือระยะทางประมาณ 13 กม.
อาณาเขตตำบล :
ทิศเหนือ ติดกับ ต.งิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย
ทิศใต้ ติดกับ ต.หนองแรด อ.เทิง จ.เชียงราย
ทิศตะวันออก ติดกับ ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จ.เชียงราย
ทิศตะวันตก ติดกับ ต.เชียงเคี่ยน อ.เทิง และ ต.ดอนลาน อ.เมือง จ.เชียงราย
จำนวนประชากรของตำบล :
จำนวนประชากรในเขต อบต. 5,942 คน และจำนวนหลังคาเรือน 1,260 หลังคาเรือน
ข้อมูลอาชีพของตำบล :
อาชีพหลัก ทำนา
อาชีพเสริม ทำสวน ทำไร่
ข้อมูลสถานที่สำคัญของตำบล :
1. อ่างเก็บน้ำขุนปล้อง
2. น้ำตกแก่งขุนปล้อง
3. น้ำตกตาดบอน



น้ำตกห้วยเต่า

(อยากให้น้ำใส คนในพื้นที่โปรดช่วยกันรักษาป่า รักษาต้นไม้ด้วยนะคับ)
และช่วยกันดูแลกับสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่่ธรรมชาติมอบให้
ให้คงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ต่อไป
ให้คนอื่น ๆ ได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศ ของน้ำตก
และประทับใจ

สถานที่ตั้ง :  ตำบลงิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย


 

 วัดบุญนาค พระเจ้าสองสี ตำบลหงาว

พระเจ้าสองสี ตั้งอยู่ในวัดบุญนาค ตำบลหงาว อำเภอเทิง จังหวังเชียงราย ห่างจากแยกบ้านปี้ (ทางขึ้นภูชี้ฟ้า) ไปทาง อ.เชียงคำ ประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงด่านตรวจตำบลหงาว เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร พระเจ้าสองสี จะอยู่ในวัดบุญนาค ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนบุญนาค
หงาว เป็นนตำบลเล็กๆ ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และการพัฒนาท่องถิ่น ที่น่าสนใจ จนทำให้ทีมงานของเราอยากนำมาบอกเล่าให้นักท่องเที่ยวและชาวเชียงรายที่มี โอกาสเดินทางผ่านไปสัมผัสภูชี้ฟ้า เสียเวลาเพียงเล็กน้อยเข้ามาศึกษาวิถีชีวิตของผู้คน และนมัสการพระ ศักดิ์สิทธิ์ของตำบลหงาว เหมือนกับคำที่ว่าก่อนทำการใดๆ ให้ไปไหว้พระ เพื่อเป็นสิริมงคล จะทำการใดก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีหรือหากมีเวลามากหน่อยจะแวะพักเพื่อหา ข้อมูลของภูชี้ฟ้าก่อนที่จะขึ้นไปสัมผัสความงามของธรมชาติข้างบนก่อนคงดี เพราะที่หงาวเองก็มีจุดแวะพักนักท่องเที่ยวท่านสามารถหาข้อมูลการเดินทางไม่ ว่าจะเป็นสถานที่พัก ราคาห้องพัก อาหารและอื่นๆ พร้อมกันนั้น ศูนย์ otop ของตำบล หงาว ให้ท่านซื้อหาของใช้ของฝาก ที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการสนับสนุนชาวบ้าน เพื่อให้เขามีรายได้เป็นอีกแบบหนึ่งของารพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

  ภาพโดย เชียงรายโฟกัสดอทคอม

 

 

 ดอยผาหม่น 


เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกแห่งหนึ่งของ จ . เชียงราย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้ามากนัก นักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวภูชี้ฟ้า ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาเยี่ยมชมความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวของที่นี่ โดยเฉพาะดอกทิวลิป และดอกลิลลี่  ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรดอยผาหม่นซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 มุ่งเน้นให้เป็นศูนย์ฝึกอบรม และส่งเสริมด้านการเกษตร บนพื้นที่ 113 ไร่ บนความสูงกว่า 1,000 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดปี   ที่นี่ เป็นสถานที่ เพาะปลูกไม้เมืองหนาวหลายชนิด เช่น ดอกทิวลิป ลิลลี่ ดอกชัลเวียสีแดง ต้นคริสต์มาตย์สีแดง หลากสีหลายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามเห็นภูเขาน้อยใหญ่เรียงสลับกันอย่างสวยงาม สีเขียวขจีของต้นไม้ แสดงให้เห็น ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้โดยรอบ ไฮไลต์ที่สำคัญของที่นี่ ก็คงเป็นการเปิดให้เข้าชมแปลงดอกทิวลิปหลากสี ดอกลิลลี่ และยังมีดอกไม้เมืองหนาวอีกมากมาย บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ โดยจะมี จัดเทศกาล ดอยทิวลิปบาน ที่ ดอยผาหม่น ในช่วงหน้าหนาวของทุกปี  ดอกทิวลิปบานแล้วจะอยู่ได้ราว 1 สัปดาห์เท่านั้น และเป็นดอกไม้ที่ชอบ อากาศหนาวจะอยู่ในอณุหภูมิที่ 10-15 องศาเซียลเซียส ศูนย์ส่งเสริมการเพาะปลูกไม้เมืองหนาว จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ ไปศึกษาอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อศึกษาและทดสอบในการนำทิวลิปเข้ามาปลูกในเมืองไทย ทิวลิปของที่ดอย ผาหม่นมีสายพันธุ์เป็นร้อยสายพันธุ์แต่ที่ทดสอบแล้วปลูกได้ในเมืองไทยมีอยู่ 30 สายพันธุ์ ส่วนที่นำมาทดลองปลูกม ี 11 สายพันธุ์ที่ทนทานรับกับสภาพอากาศบนดอยได้ การปลูกต้องใช้หน่อที่นำเข้าจาก เนเธอร์แลนด์ และใช้ครั้งเดียว ซึ่งอุณหภูมิจะเป็นตัวกำหนดการออกดอก





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น